วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

ขั้นตอนการทำบ้านดิน

>>>ขั้นตอนการสร้างบ้านดิน<<<
           ขั้นตอนแรกควรตรวจสอบดินในบริเวณที่เราคิดจะนำมาสร้างบ้านเสียก่อน ว่าดินนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ โดยนำดินใส่แก้วสามในสี่ส่วน เติมน้ำให้ท่วมดิน เกลือ 1 ช้อนชา จากนั้นให้คนดินกับเกลือ แล้วสังเกตว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร
           ซึ่งการตกตะกอนนั้นจะแบ่งเป็น 10 ส่วน ถ้ามีดินเหนียว 2 ใน 10 ส่วน ก็สามารถนำมาสร้างบ้านได้ แต่ก็ต้องลองปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดเล็ก ถ้าดินเกาะกันแน่นแสดงว่าสร้างบ้านได้ แต่ถ้าร่วนซุยแสดงว่าไม่สามารถนำมาสร้างบ้านได้
           การเลือกสถานที่เตรียมอิฐที่ทำมาจากดิน ต้องเลือกสถานที่ที่ใกล้กับที่จะสร้างบ้านจริงๆ ด้วย เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย และต้องระวังไม่ให้พื้นที่ที่วางดินนั้นมีน้ำท่วมถึง การทำอิฐจากดินนั้น หลักการนวดต้องใช้เท้าเป็นตัวช่วยนวด ดังนั้นต้องหากระบะไว้เหยียบดิน ถ้าหากดินที่เอามาใช้มีลักษณะที่เหนียวจนเกินไป ก็ให้แช่น้ำไว้หนึ่งคืนเพื่อให้ดินเหลวและนวดได้ง่ายขึ้น หรือเมื่อเจอดินที่เหนียวมากๆ ก็ให้ใช้แกลบ หรือฟางข้าวมาผสมกับทราย
           ปริมาณในการผสมก็วัดจากตอนที่เหยียบดินขึ้นมานั้น ดินติดเท้าหรือไม่ ถ้าติดก็แสดงว่าต้องเติมวัสดุช่วยเหลืออีก แต่ถ้าไม่ติดแสดงว่าอัตราส่วนพอดีแล้ว จากนั้นนำดินไปใส่พิมพ์ที่ทำเป็นบล็อกคล้ายกับอิฐก้อนใหญ่ๆ ตากอิฐดินทิ้งไว้หนึ่งวัน จากนั้นทำการพลิกตั้งขึ้นสลับกันทุกวันเพื่อให้อิฐไม่ติดกับพื้น ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ในการตากให้แห้ง สำหรับคนที่ชำนาญแล้วจะสามารถทำอิฐก้อนได้ถึงวันละ 70-100 ก้อน
           หลังจากที่อิฐแห้งแล้วก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมปูนที่ต้องใช้ดินชนิดเดียวกับตัวอิฐ เพื่อเอามาก่อเป็นโครงสร้างก่อนจะสร้างบ้านให้เลือกทำเลที่ยกบ้านสูงพ้นทางน้ำ โดยอาจจะสร้างบ้านที่มีบันได หรืออาจจะถมดินบริเวณที่จะสร้างบ้านดินให้สูงขึ้นด้วย

           การสร้างบันไดจะช่วยให้บ้านหลีกหนีความชื้นในดิน และหลีกเลี่ยงการเจอจอมปลวกในดินอีกด้วย ซึ่งการเทฐานบ้านอาจจะใช้การเทด้วยซีเมนซ์ก็ได้ เป็นการเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงให้กับโครงสร้างบ้านดินหลังน้อยของเรา บ้านดินเป็นบ้านที่ไม่มีเสา เพราะถือว่าอิฐทุกก้อนนั่นมีความมั่นคงแข็งแรง หลังจากเทพื้นฐานของบ้านแล้ว ก็ค่อยๆสร้างบ้านโดยเริ่มจากกำแพงชั้นล่าง และเว้นช่องไว้ใส่ประตูหน้าต่าง หรืออาจจะมีวงกบวางไว้เพื่อสร้างโครงบ้านให้เสร็จต่อไป
             การทาสี ก็ควรเอาสีที่ได้จากดินมาคลุกกับทรายละเอียด แล้วคลุกกับแป้งเปียกจึงนำมาทาบ้านได้ตามใจชอบหลังจากทาสีบ้านเสร็จก็สามารถตกแต่งภายในได้เลย จะปูกระเบื้องหรือจะปล่อยพื้นให้โล่งๆ ก็แล้วแต่เจ้าของบ้านชอบใจ การสร้างบ้านดินนั้นไม่ใช่แต่เอาดินกับฟางข้าวมาสร้างได้เท่านั้น แต่เรายังสามารถนำยางรถ ขวดแก้ว กระป๋อง ซากปูนเก่าๆ มาผสมกับดินเพื่อเป็นส่วนในการทำโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการเทพื้น หรือการทำก้อนอิฐได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการก่อสร้างอีกด้วย
           หัวใจของบ้านดินนั้นมาจากการพัฒนาและพึ่งพาสิ่งรอบๆตัว นำมาบูรณาการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งบ้านดินก็ยังมีข้อได้เปรียบบ้านปูนคือ ในการสร้างบ้านดินนั้นเราสามารถสร้างบ้านให้บิดโค้งได้ง่ายกว่าคอนกรีต ซึ่งจะทำให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติกว่าคอนนกรีต และการที่บ้านมีผนังโค้งนั้น จะมีส่วนช่วยให้ผนังแข็งแรงมากกว่าการทำผนังแนวยาว เพราะเมื่อสร้างผนังแนวยาว ก็ต้องใช้การค้ำยันเยอะขึ้น เราจึงเห็นลักษณะของบ้านดินค่อนข้างจะมีลักษณะโค้งนั่นเอง
           แต่ข้อเสียของบ้านดินที่มีผนังโค้ง คือการปรับวางเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างยากลำบาก เพราะการวางเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมจะยากขึ้นนั่นเอง แต่เชื่อว่าเมื่อออกแบบมาแล้วก็ไม่เป็นปัญหา เพาระคุณสามารถเลือกทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามต้องการ












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น