วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

จัดทำโดย

>>>รายชื่อสมาชิก<<<

นายศศิศ  สวาทสุต            ม.5/2    เลขที่  1



นายนิธิศ   โค้วคาศัย           ม.5/2    เลขที่  7 



นายตรีฉัตร       ปานจิระโชติ        ม.5/2    เลขที่ 14



นางสาวนภาลัย  ต.วิเชียร       ม.5/2    เลขที่ 22




นางสาวพัณณิตา  ภิรมย์มาก    ม.5/2    เลขที่ 23




โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ปีการศึกษา 2557



>>>หลุดๆรั่วๆ5555<<<

มองอะไรกันอ้ะ??

คุณชายและคุณนาย

ไม่มีคำบรรยาย

ลูกชายและคุณแม่555

เอ้อะ!!!

มโนไปว่ายิ้นสวย555

ข้อแนะนำในการออกแบบสร้างบ้านดิน

>>ข้อแนะนำในการออกแบบสร้าง<<
>>บ้านดิน<<

           - ก่อนอื่นต้องสำรวจความต้องการของผู้อยู่อาศัยก่อน ว่าต้องการใส่อะไรไปในห้องบ้าง ถ้ารู้ก็พอคาดคะเนได้ว่าจะสร้างบ้านที่มีขนาดเท่าใด

           - นอกจากจะดูสภาพอากาศแล้ว ต้องออกแบบบ้านให้เข้ากับสถานที่เดิมที่เป็นอยู่ เช่น แดดส่องเวลาเย็น ควรจัดมุมบ้านแบบไหน อาจจะวาดแบบแปลนคร่าวๆ ไว้ก่อน เพื่อจะได้สร้างได้ถูกใจผู้อยู่อาศัยมากที่สุด และเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไปด้วย

           - การใช้พื้นที่ของบ้านดินนั้นต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เพราะการสร้างบ้านดินนั้นถ้าทำเป็นผนังหลายๆส่วน ก็จะทำให้บ้านดูคับแคบลงแต่ถ้ามีผนังน้อยบ้านก็จะดูกว้างขึ้นด้วย
           - การปลูกบ้านต้องเอื้ออำนวยหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น อาจจะมีรางน้ำบนหลังคาเพื่อไหลสู่โอ่งเป็นการเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ และเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างยั่งยืนอีกด้วย

           - การปลุกต้นไม้ใหญ่รอบบ้าน จะทำให้บ้านเย็นขึ้น ให้ร่มเงากับบ้าน ทั้งยังทำให้รอบๆ บ้านกลายเป็นห้องนั่งเล่นได้อีกด้วย

           - หลักการปลูกบ้านดินที่ดีควรอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ และแหล่งของดิน เพราะจะมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานและประหยัดเวลา

           - ควรใช้ช่วงเวลาของการออกแบบให้มากที่สุด เพราะการลงทุนในครั้งหนึ่งของคุณนั้นจะได้คุ้มค่า

           - ในระหว่างการก่อสร้างหากเกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่ดีกว่า ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จนกว่าดินที่ก่อและฉาบไว้แห้ง แต่ทางที่ดีก็ควรออกแบบให้สมบูรณ์ตั้งแต่ครั้งแรก



ก่อนจะสร้างบ้านดินควรคำนึงถึง

>>ก่อนจะสร้างบ้านดิน ควรคำนึงถึง<<
>>หลักดังต่อไปนี้<<


           ควรดูก่อนว่าบ้านที่เรามีอยู่นั้นพอดีกับความต้องการของตัวเองหรือไม่ และถ้าจะลงทุนสร้างบ้านดินประโยชน์ที่จะได้รับคืออะไร ต้องคำนวณดีๆ เพราะบ้านเก่าที่เรามีอยู่ และบ้านใหม่ที่เรากำลังจะสร้าง เพราะอาจจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองถ้าคิดวางแผนผิด
           ก่อนจะลงมือสร้าง ไม่ใช่ว่าคิดแค่บ้านแบบนี้ราคาถูกกว่าบ้านปูน แต่ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านอาจปรึกษาจากผู้ที่เคยสร้างบ้านดินมาก่อน เพาะบ้านราคาถูกอย่างบ้านดิน หากสร้างไม่ดี งบประมาณก็บานปลายได้เหมือนกัน
           การเลือกพื้นที่ก็เป็นเรื่องสำคัญ หากเป็นไปได้ควรสร้างบ้านบนพื้นที่เป็นเนิน เพราะน้ำจะได้ไม่ขัง และไม่ทำลายบ้านดินของเรา ซึ่งถ้าไม่มีที่เนินสูง ก็อาจซื้อดินมาถมที่ก่อนลงมือสร้างบ้าน การถมก็ควรถม ทิ้งไว้หนึ่งฤดูฝนก่อนค่อยลงมือสร้างบ้านจริงๆ เพราจะได้รู้ว่าถ้าฝนตก พื้นดินที่ถมเอาไว้นั้นจะเป็นอย่างไร แข็งแรงแล้วหรือไม่นั่นเอง


ขั้นตอนการทำบ้านดิน

>>>ขั้นตอนการสร้างบ้านดิน<<<
           ขั้นตอนแรกควรตรวจสอบดินในบริเวณที่เราคิดจะนำมาสร้างบ้านเสียก่อน ว่าดินนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ โดยนำดินใส่แก้วสามในสี่ส่วน เติมน้ำให้ท่วมดิน เกลือ 1 ช้อนชา จากนั้นให้คนดินกับเกลือ แล้วสังเกตว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร
           ซึ่งการตกตะกอนนั้นจะแบ่งเป็น 10 ส่วน ถ้ามีดินเหนียว 2 ใน 10 ส่วน ก็สามารถนำมาสร้างบ้านได้ แต่ก็ต้องลองปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดเล็ก ถ้าดินเกาะกันแน่นแสดงว่าสร้างบ้านได้ แต่ถ้าร่วนซุยแสดงว่าไม่สามารถนำมาสร้างบ้านได้
           การเลือกสถานที่เตรียมอิฐที่ทำมาจากดิน ต้องเลือกสถานที่ที่ใกล้กับที่จะสร้างบ้านจริงๆ ด้วย เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้าย และต้องระวังไม่ให้พื้นที่ที่วางดินนั้นมีน้ำท่วมถึง การทำอิฐจากดินนั้น หลักการนวดต้องใช้เท้าเป็นตัวช่วยนวด ดังนั้นต้องหากระบะไว้เหยียบดิน ถ้าหากดินที่เอามาใช้มีลักษณะที่เหนียวจนเกินไป ก็ให้แช่น้ำไว้หนึ่งคืนเพื่อให้ดินเหลวและนวดได้ง่ายขึ้น หรือเมื่อเจอดินที่เหนียวมากๆ ก็ให้ใช้แกลบ หรือฟางข้าวมาผสมกับทราย
           ปริมาณในการผสมก็วัดจากตอนที่เหยียบดินขึ้นมานั้น ดินติดเท้าหรือไม่ ถ้าติดก็แสดงว่าต้องเติมวัสดุช่วยเหลืออีก แต่ถ้าไม่ติดแสดงว่าอัตราส่วนพอดีแล้ว จากนั้นนำดินไปใส่พิมพ์ที่ทำเป็นบล็อกคล้ายกับอิฐก้อนใหญ่ๆ ตากอิฐดินทิ้งไว้หนึ่งวัน จากนั้นทำการพลิกตั้งขึ้นสลับกันทุกวันเพื่อให้อิฐไม่ติดกับพื้น ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ในการตากให้แห้ง สำหรับคนที่ชำนาญแล้วจะสามารถทำอิฐก้อนได้ถึงวันละ 70-100 ก้อน
           หลังจากที่อิฐแห้งแล้วก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมปูนที่ต้องใช้ดินชนิดเดียวกับตัวอิฐ เพื่อเอามาก่อเป็นโครงสร้างก่อนจะสร้างบ้านให้เลือกทำเลที่ยกบ้านสูงพ้นทางน้ำ โดยอาจจะสร้างบ้านที่มีบันได หรืออาจจะถมดินบริเวณที่จะสร้างบ้านดินให้สูงขึ้นด้วย

           การสร้างบันไดจะช่วยให้บ้านหลีกหนีความชื้นในดิน และหลีกเลี่ยงการเจอจอมปลวกในดินอีกด้วย ซึ่งการเทฐานบ้านอาจจะใช้การเทด้วยซีเมนซ์ก็ได้ เป็นการเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงให้กับโครงสร้างบ้านดินหลังน้อยของเรา บ้านดินเป็นบ้านที่ไม่มีเสา เพราะถือว่าอิฐทุกก้อนนั่นมีความมั่นคงแข็งแรง หลังจากเทพื้นฐานของบ้านแล้ว ก็ค่อยๆสร้างบ้านโดยเริ่มจากกำแพงชั้นล่าง และเว้นช่องไว้ใส่ประตูหน้าต่าง หรืออาจจะมีวงกบวางไว้เพื่อสร้างโครงบ้านให้เสร็จต่อไป
             การทาสี ก็ควรเอาสีที่ได้จากดินมาคลุกกับทรายละเอียด แล้วคลุกกับแป้งเปียกจึงนำมาทาบ้านได้ตามใจชอบหลังจากทาสีบ้านเสร็จก็สามารถตกแต่งภายในได้เลย จะปูกระเบื้องหรือจะปล่อยพื้นให้โล่งๆ ก็แล้วแต่เจ้าของบ้านชอบใจ การสร้างบ้านดินนั้นไม่ใช่แต่เอาดินกับฟางข้าวมาสร้างได้เท่านั้น แต่เรายังสามารถนำยางรถ ขวดแก้ว กระป๋อง ซากปูนเก่าๆ มาผสมกับดินเพื่อเป็นส่วนในการทำโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการเทพื้น หรือการทำก้อนอิฐได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการก่อสร้างอีกด้วย
           หัวใจของบ้านดินนั้นมาจากการพัฒนาและพึ่งพาสิ่งรอบๆตัว นำมาบูรณาการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งบ้านดินก็ยังมีข้อได้เปรียบบ้านปูนคือ ในการสร้างบ้านดินนั้นเราสามารถสร้างบ้านให้บิดโค้งได้ง่ายกว่าคอนกรีต ซึ่งจะทำให้บ้านดูมีความเป็นธรรมชาติกว่าคอนนกรีต และการที่บ้านมีผนังโค้งนั้น จะมีส่วนช่วยให้ผนังแข็งแรงมากกว่าการทำผนังแนวยาว เพราะเมื่อสร้างผนังแนวยาว ก็ต้องใช้การค้ำยันเยอะขึ้น เราจึงเห็นลักษณะของบ้านดินค่อนข้างจะมีลักษณะโค้งนั่นเอง
           แต่ข้อเสียของบ้านดินที่มีผนังโค้ง คือการปรับวางเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างยากลำบาก เพราะการวางเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมจะยากขึ้นนั่นเอง แต่เชื่อว่าเมื่อออกแบบมาแล้วก็ไม่เป็นปัญหา เพาระคุณสามารถเลือกทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามต้องการ












ประโยชน์ของบ้านดิน

>>>ประโยชน์ของบ้านดิน<<<


1. บ้านดิน มีราคาถูก ใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นนั่นก็คือดิน ทำให้บ้านดินมีต้นทุนต่ำ มีเงินไม่มากก็มีบ้านได้
2. บ้าน ดิน มีวิธีการสร้างที่ง่าย ไม่ยุงยากซับซ้อน คนที่ไม่มีความชำนาญก็ทำได้ ทุกเพศทุกวัย บ้านดินเป็นบ้านที่ทุกคนในครอบครัวสร้างของตัวเองด้วยตัวเอง
3. บ้าน ดิน มีความแข็งแรงทนทาน มีอายุยืนนับ 100 ปี จุดเด่นคือมีความสวยงามเป็นธรรมชาติ อยู่สบายให้ความเย็นในฤดูร้อน ให้ความอบอุ่นใน ฤดูหนาว

4. บ้านดิน ช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า เป็นบ้านที่ประหยัดพลังงาน ช่วยลดปัญหาโลกร้อน อีกทั้งยังเป็นมิตรกับธรรมชาติ

บ้านดินคืออะไร

>>>บ้านดินคืออะไร<<<



บ้านดิน คือ  บ้านธรรมชาติ บ้านที่สามารถหาวัสดุจากรอบข้างนำมาสร้างเป็นบ้าน บ้านหนึ่งหลังอาจใช้ดินที่อยู่ข้างบ้านกับแรงกาย ค่อย ๆ ลงแรงสร้างจนกลายเป็นบ้านคุณภาพ โดยใช้ทุนเพียงเล็กน้อยบ้านดิน ต้องใช้แรงงานในการสร้างมาก ใช้ต้นทุนในการสร้างต่ำ บ้านดินจึงเหมาะสำหรับการลงแรงช่วยกันสร้าง อาจใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุดมาช่วยกันสร้าง สร้างบ้านดิน 1 หลัง มีคุณค่ามากกว่าบ้าน 1 หลัง บ้านอาจจะหมายถึง มิตรภาพ, สุขภาพ, ความภูมิใจ ปลดปล่อยการเป็นทาสของเงินตราที่เราต้องถูกหลอกชั่วชีวิตให้ทำงานอย่าง หามรุ่งหามค่ำ บ้านดินใช้ทุนน้อย แต่มีคุณค่ามากมายจนไม่สามารถประเมินค่าได้